การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน
การประเมินการเรียนรู้
จะต้องให้ข้อมูลย้อนกลับว่าการจัดการเรียนรู้บรรลุพันธกิจหรือไม่ มีดาว
จําเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เพื่อการบรรลุเป้าหมายของโปรแกรมการศึกษา
การประเมินเพื่อพัฒนาประสิทธิผลในการจัดการเรียนรู้ เขียนเป็นแผนภาพได้ดังนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDkiMzRnEQXyuERmlqy8-C0jqJwZMQiY5_rvybVGNGktINjovzApmfLrh4A0bSP8-hsn8rotxe-I5QYASG5QuSUjPvXpb-nR2UJFSbZipMT_YmAzL4AQWh8UqYz-LhAatXKx07Ac7KyNw/s1600/3.7.png)
Ghaye, T (1995) เสนอแนวคิดการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน
จะต้องพิจารณาคําถาม 5 ข้อ คือ
1. คำถามเกี่ยวกับเวลา
การปรับปรุงควรจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ผลของการปรับปรุงควรจะได้ผลอย่างชัดเจนเมื่อไร
2. คําถามเกี่ยวกับขนาดของงาน
ขอบเขตของการปรับปรุงควรมีขนาดเท่าไร
เพียงใด
ผู้เกี่ยวข้องมีกี่คน
จะต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง
ผลของการปรับปรุงที่คาดการณ์ไว้มีลักษณะอย่างไร
มีความสําคัญเพียงใด และให้ผลอะไร ในด้านการศึกษา
3. คําถามเกี่ยวกับความไม่แน่นอน
จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่
ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม การปฏิบัติ แรงจูงใจ หรือ ทิศทางใหม่เป็นการปรับปรุงจริง ๆ
จะตรวจสอบจากหลักฐานใดว่ามีการปรับปรุงเกิดขึ้นแล้ว
มีความเข้าใจในความเกี่ยวโยงกันระหว่างสิ่งที่รู้สึกว่าพัฒนาแล้วกับการพัฒนาที่ชัดเจน
เมื่อ มองในแง่ของคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน
การพัฒนาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจริง
หรือเป็นเพียงจินตนาการ
4. คําถามเกี่ยวกับการเมืองในโรงเรียน
การเมืองในโรงเรียนมีความสําคัญต่อความพยายามในการปรับปรุง
เนื่องจากการปรับปรุงมี แนวคิดพื้นฐานมาจากค่านิยมและเป็นกระบวนการที่มีระบบ
บุคคลในองค์กรจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และต้องการที่จะปฏิบัติตามแนวคิดของตน
การเข้าใจการเมืองที่อยู่เบื้องหลังความพยายามในการปรับปรุง เท่ากับยอมรับว่าในโรงเรียนย่อมมีการช่วงชิงกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์
การทบทวนจะทําให้เกิดคําถาม เชิงการเมือง เพราะการปรับปรุงเกี่ยวกับ “ผลประโยชน์”
“อํานาจ” และการแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง เมื่อมี การปรับปรุงคําถามคือ
ใครจะได้ผลประโยชน์อะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร และเพราะเหตุใด
5. คําถามเกี่ยวกับการลงลึกในการปฏิบัติการ
ถ้าการปรับปรุงมีจุดอ่อนและมีแรงกดดันจากภายนอก
การปรับปรุงก็จะมีลักษณะฉาบฉวย จนทําให้ละเลยสิ่งที่เป็นรากฐานที่ควรให้ความสนใจ
สิ่งสําคัญจะต้องทําความเข้าใจว่า การปรับปรุงโรงเรียน
และการปฏิรูปในโรงเรียนแตกต่างกัน
โดยที่การปฏิรูปมีผลลึกซึ้งและเป็นการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาที่มี
ผลกระทบต่อทุกคนในองค์กร การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งนี้
มักจะเกิดจากการรปรับปรุงโครงสร้างและอิทธิพลทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
การเน้นที่การพัฒนาภายในมากเกินไปจะไม่นําไปสู่การปฏิรูป โรงเรียน การปรับปรุงในวงที่กว้างออกไปจึงเป็นปัจจัยสําคัญในการปฏิรูป
การประเมินที่ประสบความสําเร็จจะต้องมีความชัดเจนของจุดมุ่งหมาย
จุดมุ่งหมายในการเรียนรู้
เป็นข้อความเกี่ยวกับการศึกษาที่แสดงถึงความมุ่งมั่น/เจตนาที่ตั้งใจจะ เกิดขึ้น
เช่น ความสามารถในการแก้ปัญหา ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ทักษะด้านการสร้างสรรค์และ นวัตกรรม เป็นต้น
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
เป็นข้อความที่มีความเฉพาะให้รายละเอียดที่ได้มาจากจุดมุ่งหมาย ใช้เขียน
บรรยายพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ผู้เรียนจะต้องกระทํา เช่น
ผู้เรียนจะต้องมีความสามารถในการรวบรวม จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูล
เพื่อนําไปใช้ในการตัดสินใจ ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูล
ผลการเรียนรู้
เป็นชุดรายละเอียดที่ผู้เรียนสามารปฏิบัติได้หลังจากได้เรียนในรายวิชา หรือหน่วย
การเรียนในหลักสูตรรายวิชา ผลการเรียนรู้จะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสําเร็จขั้นต่ำของผู้เรียนที่แสดง
ออกเป็นรูปธรรมได้
ความสัมพันธ์ของจุดมุ่งหมาย
วัตถุประสงค์ และผลการเรียนรู้ เขียนในรูปวัฏจักรการประเมินการ เรียนรู้
สรุปได้ดังภาพประกอบ ต่อไปนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhkGkxR-sWFJIw2GEmQXTwqEEFLmlc_8Up23KPIP0B6uiyJkvgekmKiGbWSxQtg2iYqndzDuU79RLpUersRMPuECQZs7XszX5qLpRHlIgXrldjX3IxhrEBapPMQQgojdsEA2F4euB1vPtA/s1600/4.7.png)
รูปแบบการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามแนวคิด
Outcome
Driven Model
การตรวจสอบความเข้าใจ และการสรุปความรู้
ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการเรียนรู้ ใช้ แนวทางการประเมินการเรียนรู้
ตามแนวคิด Outcome
Driven Model
สรุปเป็นแผนภาพ ได้ดังนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMINb8np-eks3hEnfuNgexOLOshGon0F_HexK32vWekeuk56GGjbTKAvxg0LdTKz86BsY7Ik6bzOFnQMEpe626eT6DnbXSfq2I9_zvR8_zfNcdnJRXPUVsoq9GYRfcMxwS4rEA0b_mpiM/s1600/5.7.png)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น