รูปแบบ The STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชีพครู
มีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญในบานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้
และจัดการชั้นเรียน รายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2
ภาพประกอบที่
2 รูปแบบ The STUDIES Model
ที่มา นันธิชา โคตรชมภู รูปแบบ The STUDIES Model รายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
รูปแบบ The STUDIES Modelมี 7 ขั้นตอน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
S
: กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ( Setting learning goals) การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้ (goals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุความรู้ในรูปของสารสนเทศ (declarative
knowledge) และระบุทักษะ การปฏิบัติ หรือกระบวนการ (procedural
knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน
ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด
แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T
: วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ
เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ(skill) และเจตคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้
การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ
Knowledge-Skill-Attitudes
U : การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
( Universal Design for Instruction : UDI) เป็นการออกแบบ
การสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive)
เกี่ยวกับการผลิตและจัดหาจัดทำหรือชี้แนะนำผลิตภัณฑ์การศึกษาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
D : การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล
(Digital Learning)
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น
เครือข่ายสังคมออนไลน์(Social networking) การแชร์ภาพ
และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (content)
จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection)
ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
I : การบูรณาการความรู้ (Integrated
Knowledge) การเชื่องโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ
ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง
ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
เป็นกระบวนการจดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
E : การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน
( Evaluation to Improve Teaching)
การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง
โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ ของบลูม (Bloom
‘s Taxonomy)
การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
S : การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard
Based Assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้
มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น